วันที่: 2013-06-25 16:21:25.0
แอร์การ์ด คือ อุปกรณ์ประเภทโมเด็มอย่างหนึ่งที่ใช้เชื่อมคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายด้วยความเร็วสูงผ่านโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยที่ระหว่างที่เราเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตก็ยังสามารถที่จะโทรเข้า-ออกได้ในเวลาเดียวกัน เพราะว่าใช้คนล่ะช่องสัญญานกัน แต่อยู่ใน Cellsite เดียวกัน หรือมีคุณสมบัติเป็นแฟกซ์ไร้สายได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนขอแค่เพียงว่าเรามีสัญญาณมือถือเราก็สามารถใช้งานได้
ความแตกต่างระหว่างแอร์การ์ด กับ วายฟาย (Wi-Fi)
Wi-Fi คือคุณสัมบัติหนึ่งที่ทำให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยช่องทางไร้สายที่มีระยะไม่เกิน 100 เมตรจากเครื่องแม่ข่ายของ Wi-Fi นั้นๆ ซึ่งถ้าปราศจากตัวแม่ข่ายนี้ก็จะไม่สามารถใช้งานได้
ส่วนแอร์การ์ดจะเป็นโมเด็มอย่างหนึ่งที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านทางคลื่นสัญญาณของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการเชื่อมสัญญาณเข้ากับ Cellssite ของเสาโทรศัพท์ จึงทำให้เล่นเน็ตที่ไหนก็ได้ที่มีสัญญาณ
แอร์การ์ด ( Air Card )แบบไหนดีกว่ากัน
ซื้อแอร์การ์ดแบบไหนกันดีระหว่าง USB กับแบบ Slot
สำหรับคนที่ยังลังเลชนิดว่างงๆอยู่ว่าจะเอายังไง และสงสัยเกี่ยวกับชนิดของแอร์การ์ดที่แยกย่อยออกเป็นอีกหลายชนิดซึ่งนอกจากจะมีแบบ USB ที่เรามักจะเห็นกันอยู่โดยทั่วไปแล้วยังมีแบบอื่นๆอีกคือ แบบ Express Card หรือ PCMCIA Card/ Cardbus/ PC Card บอกมาอย่างนี้แล้วบางคนก็คงจะถึงบางอ้อ มันก็คือรูเล็กๆของโน๊ตบุ๊คที่มีอยู่แทบทุกรุ่นซึ่งหลายรุ่นก็มีไม่เหมือนกัน เป็นช่องใส่แอร์การ์ด แบบ Express Card มาถึงตอนนี้เราลองมาเปรียบเทียบกันว่าแอร์การ์ดแบบ USB กับแบบ Slot มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร
แนวทางการเลือกซื้อแอร์การ์ด 3G ณ เวลานี้
ในตอนนี้มีผู้ให้บริการ 3 รายที่เปิดให้เราใช้งาน 3G กันได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดใช้บริการในบ้านเราแต่ว่าอุปกรณ์ที่รองรับก็มีการวางตลาดมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เรามาดูกันว่าจะเลือกซื้อแอร์การ์ดที่จะนำมาช้กับเครือข่ายเหล่านี้อย่างไร
เทคนิคการเลือกซื้อแอร์การ์ด (Aircard) อย่างง่ายๆ
พูดกันเอาชนิดที่แบบเข้าใจกันง่ายๆก็คือเป็นโมเด็มแบบไร้สายที่เสียบผ่านช่อง USB และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เช่น AIS, DTAC, True เป็นต้น แล้วแอร์การ์ดต่างกับการเชื่อมต่อกับมือถืออย่างไร? ก็คือจุดประสงค์ในการใช้งานจะเหมือนกันเพียงแต่ว่าการเชื่อมต่อผ่านมือถือนั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่าการใช้แอร์การ์ดเพราะต้องมีไดร์เวอร์และการตั้งค่าต่างๆในตัวเครื่องที่มีความซับซ้อนและถ้าใช้นานๆก็อาจจะมีผลทำให้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์เสื่อมเร็วกว่าปกติได้ด้วย แล้วก็ในกรณ์ที่ใช้ซิมเดียวเล่นเน็ตก็พาลโทรเข้าไม่ติดไปอีก จึงสรุปว่าการใช้แอร์การ์ดดีกว่าการใช้มือถือถึงราคาจะใกล้เคียงกันก็เถอะ ทำไมต้องเป็นแอร์การ์ด? เป็นความจำเป็นที่คงเลี่ยงไม่ได้หากบ้านเราไม่มีเบอร์ 02 ที่จะใช้สมัคร Hi-Speed Internet หรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ Wi-Fi ที่จะใช้เชื่อมต่อและสำคัญมากสำหรับคนที่ต้องเดินทางออกนอกสถานที่เป็นประจำและทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเตอร์เน็ต
สิ่งที่เราควรจะต้องรู้ก่อนการเลือกแอร์การ์ด 3G
ก่อนอื่นต้องถามกับคนขายก่อนว่าแอร์การ์ดนั้นรองรับกับทุกเครือข่ายหรือเปล่า เพราะมาตรฐานคลื่นความถี่สากลที่ใช้ในไทยแต่ล่ะค่ายก็จะไม่เหมือนกัน คือ
เลือกความเร็วเท่าไหร่ ที่เห็นๆวางจำหน่ายทั่วไปก็ไม่มีความเร็วตั้งแต่ 3.2-7.2 MBps ซึ่งความเร็วจริงๆที่เราได้รับก็จะขึ้นอยู่กับการแสดงการสมัครใช้งานของเรากับผู้ให้บริการด้วยเช่นกัน แอร์การ์ดสเป็คเหมือนกันแต่ทว่าทำไมราคาไม่เท่ากัน? คำตอบคือบางยี่ห้อก็เป็นของเจ้าเดียวกับผู้ให้บริการ ราคาที่ต่างกันก็มักจะรวมโปรโมชั่นพิเศษเข้าไปแล้ว ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของแต่ละเจ้าก่อนซื้อแพ็คเกจ
การเลือกซื้อแอร์การ์ด(Aircard) 3G
ใครที่กำลังมองหาแอร์การ์ด 3G โปรดฟังทางนี้!
ดูเหมือนว่าเรื่องของเทคโนโลยี 3G ในบ้านเราจะเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากเพราะจะทำให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่โลกของอินเตอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนโดยเฉพาะเวลาอยู่นอกบ้านและก็ไม่ต้องทนกับความช้าชนิดที่ใจแทบขาดของ GPRS/EDGE เหมือนเช่นแต่ก่อน ทั้งในแง่ของการเชื่อมต่อความบันเทิงผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างการดู Youtube ก็จะง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องรอให้โหลดเสร็จแล้วค่อยดูเหมือนเช่นเคย สามารถดูได้ต่อเนื่องแบบไม่กระตุกหรือน้อยลงมากๆ ผ่านอุปกรณ์อย่างแอร์การ์ด
แต่ก่อนการเลือกซื้อแอร์การ์ดที่เอาไว้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะเน้นไปทางการใช้งานเฉพาะการรับส่งอีเมล์ซึ่งการใช้ GPRS/EDGE ซึ่งก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรสำหรับการใช้งานในส่วนนี้ แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนมากเป็น 3G เราก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อดีๆเหมือนกัน ไม่ให้โดนหลอกเอาได้
ทิปในการเลือกซื้อแอร์การ์ดแบบ 3G
เพื่อการทำงานที่เสถียรก็ควรเลือกใช้งานแบรนด์ที่มีมีชื่อเสียงและเชื่อถือได้อย่าง Sierra, D-Link เป็นต้นต้องดูในเรื่องของความเร็วให้ดีเพราะปัจจุบันที่ใช้อยู่จะมี 3.2 กับ 7.2 MBps ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ขอแนะนำว่าเลือกตัวที่ความเร็วสูงไว้ก่อนเป็นดีตรวจสอบพื้นที่ให้บริการที่เราใช้บ่อยว่ารองรับสัญญาณของค่ายไหนได้บ้าง และถ้ารุ่นไหนที่สามารถรองรับได้หลายคลื่นความถี่ในตัวเดียวราคาก็จะแพงขึ้นมาอีกนิดหน่อย บางรุ่นเป็น Flash Drive ได้ด้วยบ บางรุ่นก็สามารถเสียบได้ในช่อง SD Card
คลื่นความถี่ที่รองรับ 3G ในบ้านเรา
การเลือกซื้อ “แอร์การ์ด”
ถ้าอยากจะให้โน๊ตบุ๊คของเราเล่นเน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาก็คงจะเป็นต้องต้องพึ่งแอร์การ์ดกันล่ะครับ เพราะดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายละสะดวกที่สุดที่จะทำให้เราเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ ส่วนจะเลือกรุ่นไหนอย่างไรนั้น เรามาดูกัน
แอร์การ์ดที่เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้ส่วนมากจะเป็นแบบ USB กันหมดแล้วเนื่องจากการใช้งานที่สะดวก รูปร่างหน้าตาก็ละม้ายคล้ายแฟลชไดรว์เพียงแค่มีช่องให้เสียบซิมการ์ดเพิ่มเข้ามาเท่านั้นเองการจะเลือกซื้อแอร์การ์ดจะต้องคำนึงถึงซิมที่เราจะเอามาใช้ได้กับแอร์กาดนั้นด้วยนะครับ โดยดูว่าพื่นที่ที่เราใช้ส่วนใหญ่มีสัญญาณของค่ายไหนอยู่บ้าง เป็น 3G หรือ EDGE ซึ่งปัจจุบันนี้ แอร์การ์ดทุกตัวรองรับ EDGE เป็นมาตรฐานอยู่แล้วที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือส่วนของการรองรับ 3G เพราะในบ้านเราแต่ละค่ายแต่ละเจ้าก็ให้บริการในช่วงคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันออกไป
1. AIS ใช้คลื่นความถี่ 900 MHz
2. DTAC กับ True ใช้คลื่นความถี่ 850 MHz
3. TOT รวมไปถึง i – Mobile 3GX / 365 3G / Mojo 3G / IEC 3G / i – Kool 3G ใช้คลื่นความถี่เดียวกันคือ 2100 MHz โดยเจ้าของคลื่นความถี่จริงๆ ก็คือ TOT
ดังนั้นการเลือกซื้อแอร์การ์ดจึงต้องคำนึงถึงว่าจะสามารถรองรับซิม 3G, EDGE ของผู้ให้บริการค่ายไหนได้บ้าง ตรงกับที่เราต้องการจะใช้หรือไม่ เพราะว่าในตัวแอร์กาดแต่ละรุ่น ก็รองรับได้ไม่เท่ากัน รวามไปถึงความเร็วเองก็เช่นกันที่อาจไม่เท่ากันด้วย ซึ่งรุ่นที่มีคุณมบัติรองรับได้มากกว่าก็จะได้เปรียบตรงที่ว่าเอาซิมของค่ายไหนมาใช้ก็ได้ เนื่องจากความครอบคลุมพื้นที่สัญญาณของผู้ให้บริการไม่เท่ากัน แอร์การ์ดที่มีวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆด้วยกัน คือ
1. แอร์การ์ดของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละค่ายคือ AIS, DTAC, TrueMove ซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่ตามศูนย์บริการนั่นเอง ส่วนใหญ่จะขายมาพร้อมซิมซึ่งมีโปรโมชั่นหรือแพ็จเกจให้มากับซิมเรียบร้อยแล้ว แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้ซิมเนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่แอร์การ์ดจากค่ายนั้นๆจะไม่สามารถนำซิมของค่ายมือถืออื่นๆมาใช้ได้เนื่องจากมีการล็อกไว้ให้แต่เฉพาะค่ายของตัวเองเท่านั้น แต่ก็จะมีข้อดีตรงที่ว่าราคาก็จะไม่แพงมากเนื่องจากเป็นการดึงลูกค้า ซึ่งบางรายก็จัดแพ็คเกจชนิดที่เหมือนได้ฟรีเลยทีเดียว
2. แอร์การ์ดเปล่าๆที่ไม่มีซิมติดมาด้วย ซึ่งจะเปิดกว้างมากสำหรับแอร์การ์ดในรุ่นนี้ ซึ่งสเปคจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารองรับกับคลื่นความถี่ไหนได้บ้าง ความเร็วสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถใช้กับค่ายไหนได้บ้าง หรืออาจจะเลือกเป็นรุ่นที่รองรับได้กับทุกค่ายที่ราคาจะแพงขึ้นมาหน่อยก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างไอทีชั้นนำหรือสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้เช่นกัน
แอร์การ์ด 3G แบบ USB หรือ MiFi เลือกอย่างไหนดี
แอร์การ์ด USB vs MiFi
เรื่องของอินเตอร์เน็ตไร้สายดูจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราเข้ามาทุกวัน ซึ่งถ้าเป็นในยุคก่อนๆหากจะเชื่อมเน็ตทีเราก็อาจจะต้องใช้มือถือเป็นโมเด็มเพื่อที่จะให้คอมพิวเตอร์ของเรานั้นสามารถที่จะเชื่อมกับโลกออนไลน์ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้าน และปัจจุบันมือถือก็ได้พัฒนามาเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความฉลาดมากกว่ากจะเป็นแค่มือถือที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็ยิ่งดูเหมือนจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นไปอีก สมาร์ทโฟนบางรุ่นเองก็สามารถที่จะเป็นตัวกระจายสัญญาณ WiFi เพื่อให้อุปกร์อื่นๆสามารถใช้งานได้อีกด้วย พอมาถึงตรงนี้คำถามก็คือว่า ถ้ามือถือเราสามารถแชร์เน็ตได้อยู่แล้วจำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องซื้อแอร์การ์ดอีก วันนี้เราจะมาบรรยายถึงสรรพคุณของดีเสียของแอร์การ์ดแพื่อให้ทุกท่านได้ตัดสินใจไว้พอเป็นแนวทางครับ
ประเภทของแอร์การ์ดในปัจจุบัน
โดยในที่นี้จะของแยกประเภทออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆคือแอร์การ์ดแบบ USB กับ แอร์กาดแบบไร้สายหรือ MiFi ซึ่งอันที่จริงแล้วยังมีรุ่นอื่นอีกมากมายแต่เนื่องจากที่เป็นที่นิยมใช้กันจะเป็นเจ้าสองตัวนี้ ซึ่งก็จะมีข้อดีของเสียแตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละตัวนั้นมีอะไรกันบ้าง
1. แอร์การ์ดแบบ USB จุดที่เด่นสุดของแอร์การ์ดประเภทนี้คือเรื่องของราคาที่ถูกว่าแบบไรสายพอสมควร ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหลายพันขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณสมบัติต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่เรื่องของการรองรับเครือข่าย และความเร็วสูงสุดที่สามรถรับได้ ยิ่งถ้ารองรับได้เยอะราคาก็จะแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ก็มีข้อจำกัดคือเราไม่สามารถที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่มีช่อง USB ได้ หรือแท็บเล็ตบางรุ่นก็ไม่สามารถที่จะใช้แอร์การ์ดแบบ USB ได้ ซึ่งอุปกรณ์สำหรับแอร์การ์ดในรุ่นนี้คือ Notebook
|
|
|