วันที่: 2012-05-24 09:50:19.0
ปัจจุบันระบบ 3G สำหรับบางคนยังเป็นเรื่องใหม่ หลายคนไม่มีความรู้ความเข้าใจ ประกอบกับการ
โฆษณาที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้น ผู้ให้บริการแต่ละรายจึงเน้นว่าเครือข่ายของตนเองดีกว่า ครอบคลุม
มากกว่า แต่ความเป็นจริงระบบ 3G มีข้อจำกัดมากมายผู้ให้บริการมักจะทำเครื่องหมาย "*" แทรกไว้ใน
การโฆษณาทำให้ผู้อ่านมึนงง จึงมีปัญหาว่าระบบหรืออุปกรณ์ 3G ที่ซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ หรือ ใช้แล้วไม่ดี
ดังนั้น Aircard Service จึงขอนำเสนอขั้นตอนการพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้งาน 3G ดังนี้
ขั้นตอนที่1 : ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ เนื่องจากเครือข่าย 3G เป็นเทคโนโลยีใหม่ ไม่สามารถใช้อุปกรณ์
ในระบบ 2G ที่มีอยู่แล้วได้ ต้องติดตั้งใหม่ (ไม่ใช่ว่าผู้ให้บริการเดิมที่มีเครือข่ายสัญญาณเสียง 2G ครอบ
คลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากที่สุดจะสามารถให้บริการ 3G ได้มากที่สุดด้วย เป็นคนละเรื่องกันเลย) ดังนั้นผู้ที่
ต้องการใช้งานระบบ 3G ต้องตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของผู้ให้บริการแต่ละรายแบบเฉพาะเจาะจง เพราะ
แต่ละรายจะมีพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ 3G ไม่เหมือนกัน
โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของแต่ละรายจากเว็ปไซต์ดังนี้
TOT3G (IEC, I-mobile, i-kool, i-fox, Mojo, 365) : http://www.i-bkk.com/ilocation/viewer/
TRUEMOVE H 3G+ : http://www3.truecorp.co.th/truemoveh/icoveragemap
DTAC 3G : http://www.dtac.co.th/lifenetwork/3gnetwork.html
AIS 3G : http://www.ais.co.th/mobileinternet/3g/coverage/
3G My By CAT: http://www.mybycat.com/area.php?id=25&cid=19
การตรวจสอบควรตรวจสอบอย่างละเอียด โดยระบุบริเวณที่ต้องการใช้งานลงในแผนที่ให้แน่ชัด แล้ว
ตรวจสอบว่ามีสัญญาณหนาแน่นแค่ไหน ซึ่งเว็ปไซต์ผู้ให้บริการบางรายมีระดับสัญญาณบ่งบอกชัดเจน
แต่บางรายก็ทำคร่าว ๆ เท่านั้น ต้องทดลองใช้จริงถึงจะรู้ว่าสัญญาณดีแค่ไหนหรือใช้ไม่ได้เลยก็มี
บางคนอาจชอบเครือข่ายเดิมที่ใช้อยู่ แต่ตรวจสอบที่บ้านแล้ว เค้าไม่ทำ 3G ให้ ก็ต้องยอมเปลี่ยนใจ
ไปใช้ค่ายอื่นที่เค้ามีแทน หรือไม่ก็ใช้เบอร์เพิ่มอีก 1 เบอร์ สำหรับ 3G เท่านั้น โทรออก-รับสายก็ใช้เบอร์
เดิมไปก่อน เพราะหากนำมาร่วมกัน อาจปวดหมองได้ (ปัจจุบันยังไม่มีค่ายใดที่ให้บริการเสียง และ 3G ได้
ดีทุกพื้นที่พร้อมกัน ผู้ใช้จำต้องเอาของดีแต่ละค่ายมารวมกัน)
ขั้นตอนที่ 2 : ตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีว่ารองรับ 3G เครือข่ายที่ต้องการใช้หรือไม่
เนื่องจาก 3G เป็นเทคโนโลยีใหม่ ผู้ที่ต้องการใช้งานต้องมีอุปกรณ์ มือถือ หรือ Aircard ที่รองรับ
3G ด้วย ต้องดูจากสเปคว่ารองรับเทคโนโลยี UMT/WCDMA/HSPA/HSPA+/HSDPA/HSUPA หรือไม่
หากไม่มี ก็ใช้ไม่ได้ครับ จำใจต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ ถ้ามือถือ ก็มีตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น ถ้าประหยัด
หน่อย ใช้ Aircard ก็ราคาไม่กี่พัน อาจมีคนสงสัยว่าอุปกรณ์ที่รองรับ GSM/GPRS/EDGE ใช้ 3G
ได้หรือไม่ ก็ตอบว่า ไม่ได้ครับ เพราะเป็นระบบ 2G เท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น ต้องตรวจสอบด้วยอีกว่า อุปกรณ์รองรับความถี่ 3G เท่าไหร่บ้างเพราะบ้านเราผู้ให้
บริการแต่ละค่ายใช้ความถี่ 3G ไม่เหมือนกัน และอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ก็ไม่รองรับ 3G ทุกความถี่ซะด้วย
หากไม่ตรวจสอบให้ดี ก็อาจจะใช้งานไม่ได้ มาดูกันว่า ผู้ให้บริการ 3G แต่ละรายใช้ความถี่เท่าไหร่กันบ้าง
ความถี่ 2100 MHz : TOT3G (IEC, I-mobile, i-kool, i-fox, Mojo, 365)
ความถี่ 850 MHz : TRUEMOVE H 3G+ / DTAC 3G / 3G My By CAT
AIS 3G ใช้ความถี่ 900 MHz
จะเห็นได้ว่าหากซื้ออุปกรณ์ที่รองรับ 3G 850/2100 MHz ก็จะรองรรับผู้ให้บริการส่วนใหญ่ในบ้านเรา
ระวังไว้ว่าต้องดูเฉพาะเทคโนโลยี 3G เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ผู้ขายมักบอกว่า "รองรับทุกค่าย" ("เฉพาะ
ระบบ 2G ไม่รวม 3G" อันนี้ไม่ยอมพูดหรือไม่รู้จริง) สเปคจะเขียนว่า EDGE/GPRS : 850/900/1800/1900 MHz
คือรองรับทุกความถี่ของ 2G ที่มีมานานแล้ว แต่ของ 3G ต้องดูแยกกันเช่น UMT/WCDMA : 2100 MHz,
HSPA : 850/2100 MHz, HSPA : 850/1900/2100 MHz, HSPA : 900/2100 MHz ล้วนแต่เป็น
อุปกรณ์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่ายในบ้านเรา
หากต้องการเลือกอุปกรณ์ที่ใช้ได้ทุกเครือข่ายในตัวเดียวต้องดูสเปคที่เป็น HSPA : 850/900/2100 MHz,
HSPA : 850/900/1900/2100 MHz ซึ่งราคาจะแพงกว่า แต่หากพิจารณาว่าซื้อตัวจบเดียว ดีกว่าต้อง
ซื้อ 2-3 ตัว ก็คุ้มค่ากว่ามาก
ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจสอบค่าบริการ และ Package ต่างๆ
เมื่อเลือกเครือข่ายและอุปกรณ์ที่จะใช้งานกับระบบ 3G แล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงคือค่าใช้บริการ
ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลที่ใช้ โดยแบบเติมเงินมีตั้งแต่ MB ละ 20 สตางค์
จนถึง MB และ 2 บาท ซึ่งราคาแตกต่างกันมากขึ้นกับแพ็คเกจที่เลือกใช้ หลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับ
การคิดค่าบริการเป็น MB ทำให้กะปริมาณการใช้งานไม่ถูก จึงขอให้ข้อมูลคร่าว ๆ ดังนี้
ดูหนัง 1 เรื่องประมาณ 1,000-3,000 MB
จะเห็นได้ว่าหากใช้ 3G ดูคลิปวีดีโอหรือดูหนังเป็นเรื่อง ๆ จะเสียค่าใช้จ่ายมาก กรณีนั้นใช้เน็ตบ้าน
ADSL หรือ Wifi ดีกว่า แต่ถ้านำมาใช้ทั่วๆไป จะประหยัดกว่าเน็ตบ้านมาก และใช้งานนอกสถานที่ได้
ข้อควรระวังคือบางแพ็คเกจผู้ให้บริการมักใช้คำว่า "ไม่จำกัด" แต่จะมี "*" ตามท้ายซึ่งจะระบุว่าใช้ 3G
ความเร็วเต็มที่ได้ X Mbps หากเกินนั้นความเร็วจะถูกจำกัดเหลือเพียง XXX kbps ซึ่งจะช้ากว่ามาก
อีกอย่างคือโปรแกรม Auto Update บางอันก็ Down Load ข้อมูลเป็น ร้อย ๆ MB !!! แนะนำให้ปิดครับ
ตัวอย่างเปรียบเทียบความเร็วระบบต่างๆ ของผู้ให้บริการที่สหรัฐอเมริกา
บางแพ็คเกจคิดค่าบริการเป็นนาที ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าและนับเป็นเวลาที่ใช้งาน แต่จะจำกัดความเร็ว
ไว้ระดับนึงคือ 384 kbps ซึ่งเป็นความเร็วในระดับที่ เช็คเมลล์ Chat เล่น Fackbook อ่านข่าว หาข้อมูล
ทำรายงานได้ แต่ไม่สามารถดู คลิปวีดีโอต่อเนื่องหรือหนังเป็นเรื่อง ๆ ได้ ต้องใช้วิธี Down Load มาก่อน
แล้วค่อยเปิดดูทีหลัง ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถตรวจสอบแพ็คเกจแบบเติมเงินของผู้ให้บริการต่างๆ ได้จาก
เว็ปไซต์ดังนี้
i Mobile3GX(TOT) : http://www.i-mobile3gx.com/main/3gx_prepaid1.php
TRUEMOVE H : http://www.truemove-h.com/prepay/prepay-topping.aspx
DTAC : http://www.happy.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=281&Itemid=265&lang=th
AIS : http://www.ais.co.th/12call/th/simcard-one2call-3g-netsim-dubble.html
" Aircard Service จริงใจบริการ เพื่อความพึงพอใจสูงสุด ของลูกค้า"
|
|
|