Support
www.subsranya.com
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

การปูกระเบื้อง

วันที่: 2010-07-10 00:48:08.0view 12723reply 0

               กระเบื้อง ที่ใช้ปูพื้นทั่วไปในท้องตลาดมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ กระเบื้องเซรามิคเคลือบ และกระเบื้องยาง ซึ่งเป็น วัสดุสังเคราะห์ กระเบื้องเคลือบ นั้นใน การปูพื้น ต้องเตรียม พื้นคอนกรีต ให้มีผิวหน้าหยาบ เพื่อให้ปูนที่ใช้ใน การปูพื้น กระเบื้อง เกาะยึดติดกับ พื้นผิวเดิม ให้แน่นไม่หลุดร่อนส่วนการปูพื้น กระเบื้องยาง นั้นพื้นที่จะป ูนั้นต้องเป็นพื้นขัดมันเรียบ เพราะ กระเบื้องยาง นั้นใช้ กาวยาง เป็นตัวเชื่อมประสาน ระหว่างกระเบื้องและพื้น พื้นผิวที่เตรียมไว้ปูกระเบื้องยางจึงต้องเตรียมให้ได้ระดับ ต้องแห้ง และสามารถที่จะ กันน้ำซึม ได้

              ในปัจจุบัน กระเบื้องปูพื้น ในท้องตลาดมีมากมาย หลายประเภทให้ได้เลือกใช้กัน บางชนิดผู้ผลิต ก็ผลิตเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นที่นิยมของท้องตลาด ในขณะที่บางชนิดนั้นผลิตออกมาน้อย บางชนิดก็เลิกผลิตไปแล้วก็มี ฉะนั้นใน การเลือกกระเบื้อง นั้น ต้องระวังปัญหาเรื่องกระเบื้อง ขาดตลาด และ กระเบื้องแตกหักในภายหลัง ในการซื้อ กระเบื้องมาปูพื้นนั้น จึง ควรเผื่อจำนวน กระเบื้องที่ใช้ในกรณีที่ กระเบื้องเสียหาย และการซ่อมแซมในอนาคตไว้ด้วย
อีกเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจคือ กระเบื้องแต่ละแผ่นแต่ละยี่ห้อนั้น จะมีขนาดและความหนาไม่เท่ากัน เวลานำมาปูด้วยกัน ก็ดูไม่ดี ต่างจากที่ฝันไว้ลิบลับ และอาจทำให้พื้นไม่เรียบได้
กระเบื้องปูพื้น นั้นก็มีทั้งกระเบื้อง ที่ใช้ปูพื้นและปูผนัง ซึ่งกระเบื้องที่ใช้ปูผนังนั้นส่วนใหญ่ที่นิยมใช้นั้น มักจะเป็น กระเบื้องผิวมัน แต่กระเบื้องที่ใช้ปูพื้นก็มี 2 ประเภทคือกระเบื้องผิวมัน และกระเบื้องผิวหยาบขึ้นอยู่กับพื้นที่ปูว่าเป็นพื้นประเภทไหน มีลักษณะการใช้งานอย่างไร ถ้าเป็น พื้นห้องน้ำและ ลานซักล้างต้องใช้ กระเบื้องชนิดผิวหยาบ เพราะพื้นส่วนนี้ ต้องโดนน้ำจึงทำให้ลื่น และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ถ้าเป็นพื้นภายในตัวบ้านทั่วไปก็อาจใช้กระเบื้องผิวมันครับเพื่อความสวยงามในการปูกระเบื้อง สำหรับบ้านแต่ละหลังนั้น ก็ต้องใช้งบประมาณพอสมควร

การปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคส์

ในปัจจุบัน มีผู้นิยมปูพื้นด้วย กระเบื้องเซรามิคส์ มากขึ้น เนื่องจากมีลวดลายต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกใช้ ตลอดจนหาซื้อได้ง่าย แต่กระเบื้องปูพื้นนั้น วิธีปฏิบัติเป็นแนวทางในการปูพื้นกระเบื้องเซรามิคส์ดังนี้

1.ต้องมั่นใจว่า พื้นที่จะปู กระเบื้อง นั้นได้ทำ ความสะอาด เป็นที่เรียบร้อย ไม่มี คราบฝุ่น น้ำมัน รอยสกปรกติดอยู่ ตลอดจนไม่ลืมตรวจเช็ค ระดับพื้น หรือแนวระนาบของผนังที่จะปูถ้าไม่ได้ระดับ หรือระนาบควรตกแต่ง หรือปรับให้ได้แนวที่ต้องการ

2. พื้นที่ที่จะปู กระเบื้อง ต้องแห้ง ไม่มีความชื้น หากเป็นพื้นหรือผนังคอนกรีตนั้น พื้นที่ที่จะ ปูกระเบื้อง ได้ต้องทิ้งไว้ ให้แห้งหลังการเทพื้นหรือฉาบแล้วอย่างน้อยเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ จนแน่ใจว่าพื้นไม่มีความชื้นแล้ว จึงเริ่มลงมือปูกระเบื้องได้ครับ เพราะหากพื้นที่จะปูกระเบื้อง มีความชื้นอยู่จะมีผล ทำให้แรงยึดกันระหว่าง พื้นและวัสดุปูพื้น อ่อนลง สำหรับ พื้นชั้นล่าง ที่อยู่ติดพื้นดิน ควรรองพื้นด้วย แผ่นพลาสติก และปูนซีเมนต์ผสมทราย ที่จะทำการเทพื้นปรับระดับควรผสมน้ำยากันซึม เพื่อป้องกันความชื้นซึมขึ้นมาตามร่องยาแนว หรือผิวของกระเบื้อง

3. ในการปูกระเบื้อง นั้น ควรเว้นร่องประมาณ 1-3 ม.ม. เพื่อป้องกันปัญหาการโก่งแอ่นหลังจากการปูและใช้งาน ในการปูกระเบื้องในปัจจุบันนั้นมีวัสดุประสานอยู่สองชนิดใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ ใช้กาวซีเมนต์ หรือปูนซีเมนต์ ตามอัตราส่วน (ยกเว้น การปูกระเบื้อง ทับพื้นเดิม ซึ่งควรใช้กาวซีเมนต์ชนิดพิเศษปู หรือใช้น้ำยา ที่ช่วยเพิ่ม แรงยึดเกาะ ผสมกับกาวซีเมนต์ทั่วไป ไม่ควรใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายเพียงอย่างเดียว) ในการปูพื้นกระเบื้องใหม่ แนะนำให้ใช้ปูนกาวซีเมนต์ เนื่องจากมี ความแข็งแรงทนทาน สามารถยึดเกาะได้ด ีรวมทั้งสะดวกและรวดเร็วกว่าเมื่อเตรียมการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงปูกระเบื้องโดย เริ่มปูจาก แนวที่ติดผนัง 1 แนว จัดกระเบื้องให้ลงตัว และตีแนว กระเบื้องที่ผนัง (บรรดาช่างมักจะเรียกกรรมวิธีนี้ว่า ตีปักเต๊า) แล้วปูกระเบื้อง จากพื้นขึ้นไปถึงจุดที่จะหยุดกระเบื้อง 1 แถว เพื่อให้ กระเบื้องลงตัว ไม่เหลือเศษบนและล่าง เสร็จแล้วจึงปูกระเบื้องตามแนวที่วางไว้ครับ

4. เมื่อปูกระเบื้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องทิ้งให้ซีเมนต์แห้งอย่างน้อย 24 ช.ม. แล้วจึงยาแนว โดยปาด ตามแนวเฉียง กับร่องกระเบื้อง เพื่อให้ตัวยาแนว ลงร่องอย่างสม่ำเสมอ(ข้อสำคัญ คือ ต้องไม่ลืมทำ ความสะอาด ร่องระหว่างกระเบื้อง ก่อนการยาแนวนะครับ) เมื่อยาแนวเป็นที่เรียบร้อย ก็ควรที่จะต้องทิ้งพื้นที่ดังกล่าว ไว้ 1 อาทิตย์ก่อน การใช้งาน โดยทำความสะอาดกระเบื้อง หลังจากปุเสร็จแล้ว 24-36 ชั่วโมงและหลังจากพื้นกระเบื้องแห้ง ทำการเช็ดผิวของกระเบื้องอีกครั้ง ด้วยผ้าสะอาด

พื้นกระเบื้องยาง

กระเบื้องยางตามท้องตลาดโดยทั่วไปจะมีทั้งเป็นแบบผืนใหญ่ใช้ปูพื้นต่อเนื่องคล้ายพรมและเป็นแบบแผ่นโดยมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมคล้ายแผ่นกระเบื้องเคลือบผิดกันเพียงแต่วัสดุที่ใช้จะทำจากยางพีวีซี เปรียบเทียบกับกระเบื้องเคลือบแล้วกระเบื้องยางมีข้อดี คือ ประหยัดกว่าและให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่า แต่ก็มีข้อเสีย คือ ดูไม่หรูหราภูมิฐาน พื้นผิวยางสึกหรอและเป็นรอยขีดข่วนง่าย
หลุดล่อนง่ายแต่ก็ซ่อมแซมได้ง่าย อายุใช้งานสั้น อีกประการหนึ่งคือพื้นผิวคอนกรีตที่จะทำการปูกระเบื้องยางทับลงไปจะต้องมีผิวที่ราบเรียบเสมอกัน เพราะถ้าผิวพื้นดังกล่าวมีลักษณะเป็นคลื่นเป็นลอนแล้วเมื่อปูกระเบื้องยางลงไป ผิวพื้นกระเบื้องยางก็จะมีลักษณะเป็นคลื่นเป็นลอนไปด้วย ดูไม่สวยและเดินไม่สบาย ผิดกับการปูพื้นด้วย กระเบื้องเคลือบซึ่งจะให้ความราบเรียบเสมอกันมากกว่าถึงแม้ว่าผิวพื้นคอนกรีตเดิมจะไม่เรียบเสมอกันก็ตาม ปัจจุบันตามบ้านเรือนไม่ค่อยนิยมใช้กระเบื้องยางปูพื้นกันมากนักเนื่องด้วยเหตุผลข้างต้น และมีวัสดุปูพื้นชนิดอื่นให้ใช้แทนได้หลายอย่างแต่ก็ยังคงมีใช้กันบ้างพอสมควรตามตึกแถวหรือสำนักงานที่ต้องการความประหยัดและไม่เน้นความหรูหรามากนัก

โควท

ความคิดเห็น

วันที่: Wed Dec 18 10:37:34 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Replys: 0   Pages: 1/0