อาหารเช้า....ไม่ได้กินก่อนออกจากบ้านเพราะกลัวไปทำงานสาย แต่เมื่อถึงที่ทำงานก็ไม่ได้กินเหมือนกัน เพราะต้องรีบทำงาน ฟังดูแล้วเป็นเหตุผลที่ใช้ไม่ได้ คนบางคนอาจปฏิบัติจนเกิดความเคยชินอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอาหารเช้า
ระหว่างที่นอนหลับร่างกายก็ยังใช้พลังงาน และสารอาหารต่างๆ เพื่อให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายทำงาน เช่น ระบบหายใจ และอื่นๆ ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาระดับสารอาหารหลายชนิดจะลดลง จึงจำเป็นต้องนำมาเติมให้อยู่ในระดับปกติ คือ การกินอาหารเช้า
คนจำนวนไม่น้อยจะกินข้าวเช้าก่อนออกจากบ้านไปทำงาน หรือ พ่อแม่บางคนก็จะให้ลูกกินข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียน การไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานและจะมีผลต่อการเรียนรู้และความจำ สารอาหารหลักที่ให้พลังงานคือกลูโคส ซึ่งจะสลายให้พลังงานแก่ร่างกาย ดังนั้นการกินอาหารเช้า จึงทำให้สมองทำงานได้ดี
โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน การได้กินอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน หรือกินอาหารเช้าที่โรงเรียนก็จะช่วยให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน แม้ในผู้ใหญ่ก็เช่นกัน การได้กินอาหารเช้าจะช่วยให้ความจำดีขึ้น จากการศึกษาเปรียบเทียบผู้สูงอายุที่กินอาหารเช้าประเภทธัญพืช กับผู้สูงอายุที่ไม่กินอาหารและดื่มแต่น้ำเท่านั้น พบว่า ผู้ที่กินอาหารเช้าจะมีความจำดีกว่า
การทำงานของสมองต้องใช้พลังงานตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลำเลียงอาหารส่งสมองเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน สารอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งเมื่อสลายจะให้กลูโคส ซึ่งจะสลายต่อไปแล้วให้พลังงาน ดังนั้นการกินอาหารเช้าจึงมีข้อดีช่วยให้สดชื่น มีแรงทำงานต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ จนกว่าจะถึงมื้ออาหารต่อไป
สำหรับคนที่ไม่กินอาหารเช้า ควรปรับพฤติกรรมใหม่หันมากินอาหารเช้า เพื่อให้การทำงานในแต่ละวันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้การรับรู้และความจำดีขึ้น
อ้างอิงจาก: http://www.thaihealth.or.th ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์